ปุจฉา
: อยากทราบถึงที่มาและวัตถุประสงค์ของการผลักดันสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ
?
วิสัชนา
: เนื่องจากระบบสหกรณ์เป็นแนวคิดทางเศรษฐกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นระบบเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับทุกประเทศไม่ว่าประเทศนั้นจะมีระบบเศรษฐกิจและการปกครองแบบใด
ระบบสหกรณ์ได้รับการสถาปนาขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2459
และมีวิวัฒนาการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สหกรณ์ในประเทศไทยมีทั้งหมด 7 ประเภท ตามลักษณะอาชีพหรือกิจการร่วมกันของสมาชิก
ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์นิคม สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์บริการ สหกรณ์ออมทรัพย์
และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน มีสมาชิกสหกรณ์ทุกประเภทประมาณร้อยละ 16.72 ของประชากร
ซึ่งเป็นสหกรณ์ภาคการเกษตร ร้อยละ 60 นอกภาคการเกษตรร้อยละ 40
มูลค่าธุรกิจในระบบสหกรณ์มีมูลค่าทั้งสิ้น 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11
ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) จะเห็นว่าสหกรณ์เป็นระบบเศรษฐกิจที่สำคัญมาก
สหกรณ์จึงเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและมีการกำหนดในรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่องโดยรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดให้รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุน
และคุ้มครองระบบสหกรณ์ และจากภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนทุกระดับ
รัฐจะต้องให้ความสำคัญกับหลักการพึ่งพาตนเอง
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสในการนำหลักการและวิธีการสหกรณ์มาใช้
เพราะสหกรณ์สามารถแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละด้านได้เป็นอย่างดี เช่น
ด้านการผลิต สหกรณ์สามารถเพิ่มผลผลิตการเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยสหกรณ์ภาคการเกษตร
ด้านการบริโภคสหกรณ์สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้วยสหกรณ์ร้านค้า
ด้านการสร้างงาน สหกรณ์มีการลงทุนในการทำธุรกิจต่างๆ
และสามารถสร้างงานให้กับชุมชนนั้นๆ ด้านการจ้างงาน สหกรณ์ช่วยลดปัญหาการว่างงาน
สมาชิกสหกรณ์สามารถมีงานทำ มีรายได้ มีการกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม
ลดช่องว่างระหว่างคนจนคนรวย ดังนั้นสหกรณ์จึงมีความสำคัญและมีความจำเป็นต่อประชาชน
เป็นทางเลือกของประชาชนที่สามารถเปิดโอกาสให้เกษตรกรรายย่อย
ผู้ประกอบการขนาดเล็กและประชาชนได้มีโอกาสใช้สหกรณ์เป็นช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุน
เข้าถึงตลาดและแก้ปัญหาความยากจนบนหลักการพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ในขณะที่รายงานสรุปผลการประชุมประจำปี
2552
ของสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งขาติที่ประชุมได้เสนอประเด็นที่ควรบรรจุเรื่องสหกรณ์ไว้ในแผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 11
เนื่องจากแนวทางปฏิบัติทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันบนพื้นฐานแห่งคุณค่าของการพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ซึ่งสามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป
ด้วยเหตุนี้
คณะอนุกรรมาธิการการสหกรณ์และองค์กรเกษตรกรในคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์
วุฒิสภา ได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาศึกษาและผลักดันให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ
ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกขน ภาคขบวนการสหกรณ์
และภาควิชาการ โดยที่คณะทำงานฯ
ได้ให้ความสำคัญและร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง
รวมถึงมีข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการจัดทำโครงร่างการผลักดันสหกรณ์เข้าสู่วาระแห่งชาติในครั้งนี้
วัตถุประสงค์ของการผลักดัน
1.
เพื่อให้รัฐส่งเสริมสนับสนุนและคุ้มครองให้สหกรณ์พัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ นำประโยชน์สู่สมาชิก
ชุมชนและประเทศชาติเพื่อสังคมอยู่เย็นเป็นสุข
2.
เพื่อให้รัฐใช้กลไกของสหกรณ์และเครือข่ายเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ
ตลาดและการแก้ปัญหาความยากจนอย่างเป็นระบบ
บนหลักการพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
3.
เพื่อให้รัฐสร้างกลไกการสนับสนุน
และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการพัฒนาความเข้มแข็งของสหกรณ์อย่างถูกต้องเหมาะสม
4.
เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเป็นหลักในการพัฒนาการผลิตสินค้าอย่างเป็นระบบ
มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
5.
เพื่อให้คนในชาติตระหนักในเรื่องคุณค่าสหกรณ์และแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น