วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตอบคำถามออนไลน์ประจำเดือนกรกฎาคม ครั้งที่ 1/2554

ปุจฉา : ในปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้าได้เปลี่ยนไปปลูกพืชแข่งขัน (ยางพาราและปาล์มน้ำมัน) เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยของราคาแล้วนั้นพบว่า กาแฟโรบัสต้ามีอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยน้อยกว่ายางพาราและปาล์มน้ำมัน แต่การปลูกกาแฟโรบัสต้านั้นมีจุดแข็งที่เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ในอนาคต อยากทราบว่าจุดแข็งที่ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์นั้นคืออะไร?
วิสัจนา : การปลูกกาแฟโรบัสต้านั้นมีจุดแข็ง ดังนี้
1.กาแฟโรบัสต้าให้กำไรสุทธิที่สูงกว่าการปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมัน เมื่อพิจารณาทั้งราคาและต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปลูกกาแฟร่วมกับพืชอื่น เช่น ไม้ผลหรือพืชผัก
2.การปลูกกาแฟโรบัสต้าเกษตรกรผู้ปลูกจะได้รับรายได้มากเป็นก้อน ครั้งเดียวใน 1 ปี โดยเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รับที่ได้จากยางพาราและปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรผู้ปลูกจะได้รับรายได้หลายครั้ง แต่ละครั้งๆ ละน้อยๆ ซึ่งหากเกษตรกรขาดวินัยทางการเงินอาจเกิดปัญหาได้ในอนาคต
3.การปลูกกาแฟโรบัสต้าให้ผลผลิตเร็ว โดยใช้เวลาในการปลูกเพียง 3 ปีเท่านั้นก็สามารถให้ผลผลิตได้แล้ว
4.มีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอนและมีความแน่นอนในด้านปริมาณความต้องการในแต่ละปี
5.เนื่องจากตลาดมีความต้องการกาแฟที่มีคุณภาพดีเพื่อตอบสนองความต้องการในด้านรสชาติ กลิ่นและเนื้อกาแฟ ซึ่งในพื้นที่ปลูกที่สำคัญในประเทศไทยปัจจุบันคือ ในพื้นที่จังหวัดชุมพรและระนอง ซึ่งนับเป็นจุดแข็งในด้านกายภาพทางการผลิตพืชที่มีอยู่